เมนู

อรรถกถาอารามวรรค สิกขาบทที่ 7


วินิจฉัยในสิกขาบทที่ 7 พึงทราบดังนี้:-
สองบทว่า ปริเยสิตฺวา น ลภติ คือ (แสวงหาแล้ว) ไม่ได้ภิกษุณี
คำที่เหลือ ตื้นทั้งนั้น . ความพิสดารแห่งสิกขาบทแม้นี้ ก็ได้กล่าวไว้แล้วใน
ภิกขุโนวาทกสิกขาบทเหมือนกัน.
สิกขาบทนี้ มีการทอดธุระเป็นสมุฏฐาน เป็นอกิริยา สัญญาวิโมกข์
สจิตตกะ โลกวัชชะ กายกรรม วจีกรรม อกุศลจิต เป็นทุกขเวทนา แล.
อรรถกถาอารามวรรค สิกขาบทที่ 7 จบ

อารามวรรค สิกขาบทที่ 8


เรื่องภิกษุณีฉัพพัคคีย์


[355] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับ อยู่ ณ
นิโครธาราม เขตพระนครกบิลพัสดุ์ สักกชนบท ครั้งนั้น ภิกษุฉัพพัคคีย์
เข้าไปสู่สำนักของภิกษุณีแล้ว จะกล่าวสอนภิกษุณีฉัพพัคคีย์ ภิกษุณีทั้งหลาย
ได้กล่าวชวนภิกษุณีฉัพพัคคีย์ว่า มาเถิดแม่เจ้า ไปรับโอวาทกันเถิดเจ้าข้า.
ภิกษุณีฉัพพัคคีย์กล่าวว่า แม่เจ้าทั้งหลาย พวกเราจะชวนกันไป แม้
เพราะเหตุแห่งโอวาทอันใด พระคุณเจ้าฉัพพัคคีย์ ก็จะมากล่าวสอนพวกเราด้วย
โอวาทนั้น ณ สถานที่นี้แล้ว.
บรรดาภิกษุณีที่เป็นผู้มักน้อย. . .ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา
ว่า ไฉนภิกษุณีฉัพพัคคีย์จึงได้ไม่ไปรับโอวาทเล่า. . .

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่าภิกษุณีไม่ไปรับโอวาท จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉน
ภิกษุณีฉัพพัคคีย์จึงได้ไม่ไปรับโอวาทเล่า การกระทำของพวกนางนั่น ไม่
เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส. . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ ว่าดังนี้:-